ค้นหาบล็อกนี้

หน้าเว็บ

วันศุกร์ที่ 19 สิงหาคม พ.ศ. 2554

อานุภาพแห่งใจ

     "คนส่วนมากมุ่งทำเงิน  ทำงานจนลืมการ "ทำใจ"  ในเมื่อมีอารมณ์ที่ชอบหรือชังมากระทบใจเข้า  ใจจึงไหวสั่นสะเทือน  ล่องลอยไปตามอารมณ์นั้นอย่างลืมตัว"
    
     ยามได้ดีมีสุขก็ปล่อยใจให้ปลื้มจนลืมเป็นลืมตาย  ยามโชคร้ายได้ทุกข์ก็ปล่อยให้ความโศกเศร้าเผาลนและกดดันจิตจนต้องคิดฆ่าตัวตาย

     การที่ชีวิตคนต้องเป็นเช่นนี้ทั้งในอดีต  ปัจจุบัน  หรือในกาลอื่น ๆ ก็เพราะคนขาดการ  "ทำใจ" ใจจึงไม่ไวพอที่จะรู้าทันกับเหตุการณ์ที่มากระทบ  ต่อเมื่อได้ฝึก  "ทำใจ"  เอาไว้บ้าง  "ใจ"  ดวงน้อย ๆ  ในตัวเรานี้แหละจะค่อย ๆ พัฒนาจนกลายเป็น  "ใจ" ดวงน้อย ๆ ในตัวเรานี้แหละจะค่อย ๆ พัฒนาจนกลายเป็น "ใจ" ที่มีคุณภาพ  ซึ่งจะมีลักษณะปรากฎให้เห็น  ๓  ประการ  คือ

     ๑.  หนักแน่น  เข้มแข็ง  มั่งคง (สมาหิโต)
     ๒.  สะอาด  บริสุทธิ์  (ปริสุทฺโธ)
     ๓.  ไวต่องาน  หรือต่ออารมณ์ที่มากระทบ  (กมฺมนีโย)

     ถ้าท่านผู้ใดทำใจให้มีลักษณะ  ๓  ประการดังกล่าวมาแล้วนั้นท่านผู้นั้นก็เหมือนมีแก้วสารพัดนึกอยู่ในตัว

วันจันทร์ที่ 15 สิงหาคม พ.ศ. 2554

ฝึกใจให้เกิดฤทธิ์

ฝึกใจให้เกิดฤทธิ์
     ใจที่มีลักษณะ  ๓  ประการเช่นนั้นหาได้ยากแสนยากในคนทั่วไปแต่หากใครฝึกหัดได้ย่อมเป็นใจที่มี "ฤทธิ์" พร้อมที่จะนำชีวิตก้าวขึ้นสู่ความสำเร็จในทุกทาง  โปรดอย่าลืมว่า !

"จิตฺเตน  นียติ  โลโก"
โลกคือชีวิตมีจิตเป็นเครื่องกำหนดและนำไป

     คำว่า "ฤทธิ์"  แปลว่า  "ความสำเร็จ"  ใจที่มีฤทธิ์ย่อมเป็นเครื่องมืออันวิเศษที่จะช่วยคนให้ทำสรรพกิจน้อยใหญ่ให้สำเร็จ  คนที่ทำใจ  ให้มีฤทธิ์ได้เป็นคนมีโชคมีวาสนาทำอะไรก็พบกับความสำเร็จเสมอ

"การไหว้พระสวดมนต์ เป็นวิธีปฎิบัติเบื้องต้นอย่างหนึ่งในการทำใจให้มี "ฤทธิ์" ถ้าตั้งใจทำอย่างสม่ำเสมอและทำถูกวิธีคงไม่นานนักจะประจักษ์ผลจนเห็นเป็นอัศจรรย์"

     คุณธรรมน้อยใหญ่ซึ่งคนทั่วไปปรารถนา  เช่น  ความหนักแน่น  ความสุขุมเยือกเย็น  ความเมตตากรุณา  และความเฉลียวฉลาด  เหล่านี้จะเกิดขึ้นมาอย่างน่าประหลาด