ค้นหาบล็อกนี้

หน้าเว็บ

วันศุกร์ที่ 19 สิงหาคม พ.ศ. 2554

อานุภาพแห่งใจ

     "คนส่วนมากมุ่งทำเงิน  ทำงานจนลืมการ "ทำใจ"  ในเมื่อมีอารมณ์ที่ชอบหรือชังมากระทบใจเข้า  ใจจึงไหวสั่นสะเทือน  ล่องลอยไปตามอารมณ์นั้นอย่างลืมตัว"
    
     ยามได้ดีมีสุขก็ปล่อยใจให้ปลื้มจนลืมเป็นลืมตาย  ยามโชคร้ายได้ทุกข์ก็ปล่อยให้ความโศกเศร้าเผาลนและกดดันจิตจนต้องคิดฆ่าตัวตาย

     การที่ชีวิตคนต้องเป็นเช่นนี้ทั้งในอดีต  ปัจจุบัน  หรือในกาลอื่น ๆ ก็เพราะคนขาดการ  "ทำใจ" ใจจึงไม่ไวพอที่จะรู้าทันกับเหตุการณ์ที่มากระทบ  ต่อเมื่อได้ฝึก  "ทำใจ"  เอาไว้บ้าง  "ใจ"  ดวงน้อย ๆ  ในตัวเรานี้แหละจะค่อย ๆ พัฒนาจนกลายเป็น  "ใจ" ดวงน้อย ๆ ในตัวเรานี้แหละจะค่อย ๆ พัฒนาจนกลายเป็น "ใจ" ที่มีคุณภาพ  ซึ่งจะมีลักษณะปรากฎให้เห็น  ๓  ประการ  คือ

     ๑.  หนักแน่น  เข้มแข็ง  มั่งคง (สมาหิโต)
     ๒.  สะอาด  บริสุทธิ์  (ปริสุทฺโธ)
     ๓.  ไวต่องาน  หรือต่ออารมณ์ที่มากระทบ  (กมฺมนีโย)

     ถ้าท่านผู้ใดทำใจให้มีลักษณะ  ๓  ประการดังกล่าวมาแล้วนั้นท่านผู้นั้นก็เหมือนมีแก้วสารพัดนึกอยู่ในตัว

วันจันทร์ที่ 15 สิงหาคม พ.ศ. 2554

ฝึกใจให้เกิดฤทธิ์

ฝึกใจให้เกิดฤทธิ์
     ใจที่มีลักษณะ  ๓  ประการเช่นนั้นหาได้ยากแสนยากในคนทั่วไปแต่หากใครฝึกหัดได้ย่อมเป็นใจที่มี "ฤทธิ์" พร้อมที่จะนำชีวิตก้าวขึ้นสู่ความสำเร็จในทุกทาง  โปรดอย่าลืมว่า !

"จิตฺเตน  นียติ  โลโก"
โลกคือชีวิตมีจิตเป็นเครื่องกำหนดและนำไป

     คำว่า "ฤทธิ์"  แปลว่า  "ความสำเร็จ"  ใจที่มีฤทธิ์ย่อมเป็นเครื่องมืออันวิเศษที่จะช่วยคนให้ทำสรรพกิจน้อยใหญ่ให้สำเร็จ  คนที่ทำใจ  ให้มีฤทธิ์ได้เป็นคนมีโชคมีวาสนาทำอะไรก็พบกับความสำเร็จเสมอ

"การไหว้พระสวดมนต์ เป็นวิธีปฎิบัติเบื้องต้นอย่างหนึ่งในการทำใจให้มี "ฤทธิ์" ถ้าตั้งใจทำอย่างสม่ำเสมอและทำถูกวิธีคงไม่นานนักจะประจักษ์ผลจนเห็นเป็นอัศจรรย์"

     คุณธรรมน้อยใหญ่ซึ่งคนทั่วไปปรารถนา  เช่น  ความหนักแน่น  ความสุขุมเยือกเย็น  ความเมตตากรุณา  และความเฉลียวฉลาด  เหล่านี้จะเกิดขึ้นมาอย่างน่าประหลาด

วันจันทร์ที่ 7 มีนาคม พ.ศ. 2554

ธรรมะสอนใจ

คนเราเมื่อมีลาภก็มีเสื่อมลาภ เมื่อมียศก็มีเสื่อมยศ เมื่อมีสุขก็มีทุกข์ เมื่อมีสรรเสริญก็มีนินทา เป็นของคู่กันมาเช่นนี้ จะไปถืออะไรกับปากมนุษย์ ถึงจะดีแสนดีมันก็ติ ถึงจะชั่วแสนชั่วมันก็ชม นับประสาอะไร พระพุทธเจ้าผู้ประเสริฐเลิศยิ่งกว่ามนุษย์และเทวดายังมีมารผจญ ยังมีคนนินทาติเตียน ปุถุชนอย่างเราจะรอดพ้นจากโลกะธรรมดังกล่าวแล้วไม่ได้ ต้องคิดเสียว่าเขาจะติก็ช่าง ชมก็ช่าง เราไม่ได้ทำอะไรให้เขาเดือดเนื้อร้อนใจ ก่อนที่เราจะทำอะไรเราคิดแล้วว่า ไม่เดือดร้อนแก่ตัวเราและคนอื่นเราจึงทำ เขาจะนินทาว่าใส่ร้ายอย่างไร ก็ช่างเขา บุญเราทำ กรรมเราไม่สร้าง พยายามสงบกาย สงบวาจา สงบใจ จะต้องไปกังวน กลัวใครติเตียนทำไม ไม่เห็นมีประโยชน์ เปลืองความคิดเปล่า ๆ

กลอนธรรมะ..ชดใช้กรรม

เพราะชาติก่อน  ก่อกรรม    ทำเอาไว้..
ต้องชดใช้   กรรมเก่า     เฝ้าถามหา...
ด้วยเราสร้าง   กรรมนั้น    มั่นอุรา......
เชื่อเถิดหนา ใช้กรรมหมด ลดเกี่ยวพันธุ์

บทความสอนใจคนเลว

เงากิเลส
นิ่งนอนซอนไชใฝ่รากลึก
กลมเกลียวผลึกกฎเกณฑ์เป็นนิสัย
ซ่อนเนื้อแท้ปกปิดมิดชิดไว้
อาจดูคล้ายไร้ที่ไม่มีตัว
ปรากฏชัดงอกเงยเผยผึ่งออก
เมื่อถอดถอกอารมณ์ปมดิบชั่ว
ในรูปแบบ รัก โลภ โกรธ หลง เริงรัว
จะเผยตัวธาตุแท้เห็นชันเจน
ปิดดับลงปลงใจนั้นการยาก
ลาจำจากปล่อยว่างห่างไกลเว้น
เมินเฉยสิ่งกระทบพบพานเห็น
ดั่งว่าเป็นพันธุ์ไม้ไร้จิตใจ
เพราะคาบเงากิเลสเป็นเหตุตั้ง
ทุกความหวังขยับขับเคลื่อนไหว
ยากจะคัดค้านต้านทานจิตใจ
มิหลงใหลอำนาจกิเลสลวง

เงากิเลสอิงแอบแยบยลซ่อน
เฝ้านิ่งนอนกร่อนกัดจิตหล่นล่วง
ปรุงแต่งให้หมองไหม้ในจิตดวง
เป็นวงบ่วงรึงรัดถักมัดตัว
เนื่องติดตามทุกขณะไม่ละห่าง
เด่นชัดบ้างบางครั้งยามจิตมั่ว
ในรูปแบบ รัก โลภ โกรธ หลงเริงรัว
จะเผยตัวธาตุแท้เห็นชัดเจน

การปฏิบัติธรรมเปลี่ยนชีวิตได้อย่างไร

ในการอบรมนั้น นอกเหนือจากการเดินจงกรม นั่งสมาธิแล้ว สิ่งที่หลักสูตรนี้ให้ความสำคัญมากที่สุดก็คือการกำหนดปัจจุบัน คือให้มีสติระลึกรู้ถึงการเคลื่อนไหวในทุกอิริยาบถ ไม่ว่าจะเป็นยืน เดิน เคี้ยวอาหาร ดื่มน้ำ นอน และหนึ่งในสิ่งที่ยากที่สุดที่เราจะระลึกรู้ให้ได้เท่าทันก็คือความคิด

การเข้าปฏิบัติธรรมทำให้ดิฉันได้เรียนรู้ และค้นพบตัวเองมากขึ้น และรู้ตัวว่า ที่ผ่านมาในอดีตนั้น เราให้ความสำคัญกับอดีต และอนาคต มากกว่าปัจจุบัน ซึ่งเหล่านี้เป็นกระบวนการที่ก่อให้เกิดทุกข์กับตนเองทั้งสิ้น เพียงแค่มีคนมาด่าว่าเราเพียงครั้งเดียว เราก็นำคำพูดของเขานั้นกลับมาทิ่มแทงใจตัวเองซ้ำแล้วซ้ำอีกด้วยความคิดวกไปวนมา ทำให้โกรธแค้นไม่มีที่สิ้นสุด หรือกังวลกับเหตุการณ์ที่ยังไม่เกิดขึ้น เกิดวิตกจริตตีโพยตีพายไปต่าง ๆ นานา แต่เมื่อมาปฏิบัติธรรมแล้ว ก็เริ่มเข้าใจว่าอดีตคือสิ่งที่ผ่านมาแล้ว ไม่สามารถย้อนกลับไปได้ อนาคตก็เป็นสิ่งที่ยังมาไม่ถึง เพียงแค่เรามีสติอยู่กับปัจจุบัน ก็ทำให้เราทุกข์น้อยลงมาก เมื่อก่อนเป็นคนชอบเอาตัวเองไปตัดสินคนอื่น เช่น ทำไมเขาทำอย่างนั้น ไม่ถูกใจเรา แต่เมื่อได้มีเวลามาดูกายกับใจของเราแล้ว พบว่า แม้ตัวของเรายังบังคับตัวของเราไม่ได้ตั้งหลายเรื่อง ทำไมต้องบังคับคนอื่นด้วย รู้จักวิธีการจัดการกับความโกรธ หรืออคติต่าง ๆ ท่านอาจเคยเห็นเคยพบ คนบางคนที่ทำอะไรได้อย่างไม่อาจคาดคิด เพราะความโกรธ หรือตกใจมาแล้ว คงจะเห็นผลว่า การมีสติตั้งรับกับเหตุการณ์ตรงหน้าเรานั้นสำคัญอย่างยิ่ง การมีสติระลึกรู้ตลอดเวลาทำให้เราทำผิดน้อยลง การมีสมาธิมากขึ้นทำให้ทำงานให้สำเร็จลุล่วงได้อย่างรวดเร็วและมีประสิทธิภาพมากขึ้น มีความอดทนมากขึ้น และด้วยความที่อยากนำความรู้และประสบการณ์ที่ได้จากการปฏิบัติธรรมมาใช้เพื่อให้เกิดประโยชน์สูงสุด ดิฉันก็ได้ศึกษาธรรมะเพิ่มเติมอีกอย่างต่อเนื่อง และยิ่งได้พบว่า ธรรมะของพระพุทธองค์ช่างยิ่งใหญ่ และเป็นที่พึ่งอย่างแท้จริง ยกตัวอย่างง่าย ๆ ว่า ถ้าทุกคนในสังคมรักษาศีลห้าได้อย่างบริสุทธิ์ ปราศจากการเบียดเบียนซึ่งชีวิต ทรัพย์สิน การล่วงละเมิดในภรรยาและสามีของผู้อื่น การพูดปด และการดื่มสุรา โลกทุกวันนี้คงน่ารื่นรมย์ขึ้นเป็นแน่

นอกจากจิตใจของดิฉันจะเปลี่ยนแปลงแล้ว ร่างกายก็มีพัฒนาการด้วยเช่นกัน มีภาษิตบทหนึ่งว่า “ใจเป็นนาย กายเป็นบ่าว” ก่อนปฏิบัติธรรม ดิฉันมักจะนอนไม่หลับ ต้องกระสับกระส่ายพลิกไปพลิกมาเกือบค่อนคืน ตื่นขึ้นมาก็รู้สึกไม่สบาย มึนงง แต่เมื่อเราหลับด้วยสติแล้ว ก็ช่วยให้ตื่นขึ้นมาอย่างกระฉับกระเฉง กระปรี้กระเปร่ามากขึ้น หรือก่อนหน้านี้ เพียงแค่เป็นหวัดดิฉันก็รู้สึกหดหู่ เบื่อหน่าย รำคาญ แต่ปัจจุบันนี้ ความทุกข์ทางกาย ไม่ใช่ความทุกข์ทางใจของดิฉันอีกต่อไป หลายท่านอาจคิดว่าเป็นเรื่องตลก หากดิฉันจะบอกว่าห้องกรรมฐานที่ดิฉันไปบ่อยก็คือฟิตเนสเซนเตอร์นั่นเอง ในขณะที่เราทำกิจกรรมต่าง ๆ ไม่ว่าจะเป็นวิ่งบนลู่วิ่ง หรือปั่นจักรยาน หากเรามีสมาธิจดจ่ออยู่กับการเคลื่อนไหวของเท้าซ้ายขวาแล้ว เชื่อหรือไม่ว่าเราจะเหนื่อยช้าลง และทำกิจกรรมนั้นได้นานกว่าเดิม โดยที่จิตใจผ่องแผ้ว เบิกบาน ไม่รู้สึกว่าการออกกำลังกายเป็นเรื่องน่าเบื่ออีกต่อไป ดิฉันสามารถเล่นโยคะในอาสนะยาก ๆ ได้ดีขึ้น เมื่อใจเรามีสมาธิ นอกจากนี้ดิฉันยังรู้สึกมีความสุขกับการดำรงชีวิตให้ถูกต้องตามครรลองคลองธรรม ในหน้าที่การงาน แม้การทำงานบ้านบางอย่างที่น่าเบื่อ เช่น ถูบ้าน ล้างจาน หรือซักผ้า เพียงแค่เรามีสติระลึกรู้กับอิริยาบถย่อย ๆ ต่าง ๆ ในขณะนั้น ซึ่งเพียงแค่ได้อ่านบทความนี้ ดิฉันไม่คาดหวังว่า ท่านจะต้องเห็นด้วย หรือเข้าใจ และนำไปใช้ได้ แต่อยากเชิญชวนให้ท่านลองปฏิบัติดู เพื่อจะได้เห็นผลด้วยตัวของท่านเอง
สำหรับท่านที่ยังคิดว่า การปฏิบัติธรรมเป็นเรื่องของคนแก่ ดิฉันอยากฝากถึงท่านว่า ท่านจะแน่ใจได้อย่างไรว่าท่านจะมีโอกาสอยู่ถึงวัยนั้น และมีสุขภาพกายและจิตใจที่สมบูรณ์เพียงพอที่จะปฏิบัติธรรมได้

วิบากกรรม

วิบากกรรมที่ปรากฏเป็นนามธรรมถึงผลของ “อกุศลกรรม” ว่ามีโทษแสนสาหัสกว่าทางโลกมากนัก และเป็นสาเหตุที่จะต้องตกลงไปสู่อบายภูมิตามกลไกแห่งกรรมดังนี้
1. โลภะ คือ ความโลภ ผู้ใดทำอกุศลกรรมในข้อนี้ไว้ เมื่อตายไปจะต้องไปเกิดใน “เปตติวิสยภูมิ” ในเปรตหรืออสุรกายภูมิ
2. โทสะ คือ ความโกรธ ผู้ใดทำอกุศลกรรมในข้อนี้ ไว้ เมื่อตายไปจะต้องไปเกิดใน “นิรย ภูมิ”หรือ “นรก” เพื่อชดใช้กรรมที่นั่น
3. โมหะ คือ ความหลง ผู้ใดทำอกุศลกรรมในข้อนี้ เมื่อตายไปจะต้องไปเกิดใน “ติรัจฉาน ภูมิ” คือเกิดเป็นสัตว์เดรัจฉาน เช่น งู ไก่ เป็ด สุนัข เสือ เป็นต้น
ส่วนผู้สร้างแต่กรรมดี ย่อมได้รับผลตอบแทนในทางที่ดี คือ อย่างต่ำก็เกิดมาเป็นมนุษย์ สูงขึ้นไปกเป็นเทพเทวาในระดับต่าง ๆ กันไป ดังนั้นหนทางแห่งการสร้าง กรรมดี กรรมชั่ว ย่อมแสดงไว้อย่างชัดเจนเหมือนแผนที่เดินทาง ที่จะไปสู่จุดหมายปลายทางแห่งชีวิตในภายภาคหน้านั่นเอง

เรื่องสั้นสอนใจ

1. ศัตรูที่น่าสะพรึงกลัวที่สุดในชีวิตเรา ก็คือ ตัวเราเอง

2. ความล้มเหลวที่ยิ่งใหญ่ที่สุดในชีวิตเรา ก็คือ ความอวดดี

3. การกระทำที่โง่เขลาที่สุดในชีวิตเรา ก็คือ การหลอกลวง

4. สิ่งที่แสนสาหัสที่สุดในชีวิตเรา ก็คือ ความอิจฉาริษยา

5. ความผิดพลาดมหันต์ที่สุดในชีวิตเรา ก็คือ การยอมแพ้ตัวเอง

6. สิ่งที่เป็นอกุศลที่สุดในชีวิตเรา ก็คือ การหลอกตัวเอง

7. สิ่งที่น่าสังเวชที่สุดในชีวิตเรา ก็คือ ความถดถอยของตัวเอง

8. สิ่งที่น่าสรรเสริญที่สุดในชีวิตเรา ก็คือ ความอุตสาหะ วิริยะ

9. ความล้มละลายที่สุดในชีวิตเรา ก็คือความสิ้นหวัง

10. ทรัพย์สมบัติที่มีค่ามากที่สุดในชีวิตเรา ก็คือ สุขภาพที่สมบูรณ์

11. หนี้ที่ยิ่งใหญ่ที่สุดในชีวิตเรา ก็คือ หนี้บุญคุณ

12. ของขวัญที่ยิ่งใหญ่ที่สุดในชีวิตเรา ก็คือ การให้อภัยและความเมตตากรุณา

13. ข้อบกพร่องที่ใหญ่หลวงที่สุดในชีวิตเรา ก็คือ การมองโลกในแง่ร้ายและไร้เหตุผล

14. สิ่งที่ทำให้อิ่มอกอิ่มใจที่สุดในชีวิตเรา ก็คือ การให้ทาน

ฤกษ์มงคลในเดือนเมษายน พ.ศ. 2554

ฤกษ์มงคลในเดือนเมษายน พ.ศ. 2554

ฤกษ์ วันศุกร์ที่ 1 เมษายน 2554 เวลา 07:50-08:35 น. ลัคนาสถิตย์ราศีเมษ ประกอบด้วยมหัทธโนฤกษ์ ตรงกับแรม 13 ค่ำ เดือน 4 ปี ขาล
ฤกษ์ วันศุกร์ที่ 1 เมษายน 2554 เวลา 11:55-12:45 น. ลัคนาสถิตย์ราศีกรกฎ ประกอบด้วยราชาฤกษ์ ตรงกับแรม 13 ค่ำ เดือน 4 ปี ขาล
ฤกษ์ วันศุกร์ที่ 1 เมษายน 2554 เวลา 14:45-15:45 น. ลัคนาสถิตย์ราศีสิงห์ ประกอบด้วยมหัทธโนฤกษ์ ตรงกับแรม 13 ค่ำ เดือน 4 ปี ขาล
ฤกษ์ วันอังคารที่ 5 เมษายน 2554 เวลา 07:30-08:20 น. ลัคนาสถิตย์ราศีเมษ ประกอบด้วยมหัทธโนฤกษ์ ตรงกับขึ้น 2 ค่ำ เดือน 5 ปี เถาะ
ฤกษ์ วันอังคารที่ 5 เมษายน 2554 เวลา 11:00-11:30 น. ลัคนาสถิตย์ราศีกรกฎ ประกอบด้วยเพชฌฆาตฤกษ์ ตรงกับขึ้น 2 ค่ำ เดือน 5 ปี เถาะ
ฤกษ์ วันอังคารที่ 5 เมษายน 2554 เวลา 11:40-12:30 น. ลัคนาสถิตย์ราศีกรกฎ ประกอบด้วยราชาฤกษ์ ตรงกับขึ้น 2 ค่ำ เดือน 5 ปี เถาะ
ฤกษ์ วันอังคารที่ 5 เมษายน 2554 เวลา 14:30-15:30 น. ลัคนาสถิตย์ราศีสิงห์ ประกอบด้วยมหัทธโนฤกษ์ ตรงกับขึ้น 2 ค่ำ เดือน 5 ปี เถาะ
ฤกษ์ วันพุธ (กลางวัน)ที่ 6 เมษายน 2554 เวลา 07:30-15:25 น. ลัคนาสถิตย์ราศีสิงห์ ประกอบด้วยมหัทธโนฤกษ์ ตรงกับขึ้น 3 ค่ำ เดือน 5 ปี เถาะ
ฤกษ์ วันพฤหัสบดีที่ 7 เมษายน 2554 เวลา 07:00-07:20 น. ลัคนาสถิตย์ราศีเมษ ประกอบด้วยทลิทโทฤกษ์ ตรงกับขึ้น 4 ค่ำ เดือน 5 ปี เถาะ
ฤกษ์ วันพฤหัสบดีที่ 7 เมษายน 2554 เวลา 07:30-08:10 น. ลัคนาสถิตย์ราศีเมษ ประกอบด้วยมหัทธโนฤกษ์ ตรงกับขึ้น 4 ค่ำ เดือน 5 ปี เถาะ
ฤกษ์ วันพฤหัสบดีที่ 7 เมษายน 2554 เวลา 09:50-10:20 น. ลัคนาสถิตย์ราศีเมถุน ประกอบด้วยเทศาตรีฤกษ์ ตรงกับขึ้น 4 ค่ำ เดือน 5 ปี เถาะ
ฤกษ์ วันพฤหัสบดีที่ 7 เมษายน 2554 เวลา 11:30-12:20 น. ลัคนาสถิตย์ราศีกรกฎ ประกอบด้วยราชาฤกษ์ ตรงกับขึ้น 4 ค่ำ เดือน 5 ปี เถาะ
ฤกษ์ วันพฤหัสบดีที่ 7 เมษายน 2554 เวลา 13:20-14:10 น. ลัคนาสถิตย์ราศีสิงห์ ประกอบด้วยทลิทโทฤกษ์ ตรงกับขึ้น 4 ค่ำ เดือน 5 ปี เถาะ
ฤกษ์ วันพฤหัสบดีที่ 7 เมษายน 2554 เวลา 14:20-15:20 น. ลัคนาสถิตย์ราศีสิงห์ ประกอบด้วยมหัทธโนฤกษ์ ตรงกับขึ้น 4 ค่ำ เดือน 5 ปี เถาะ
ฤกษ์ วันศุกร์ที่ 8 เมษายน 2554 เวลา 07:20-08:10 น. ลัคนาสถิตย์ราศีเมษ ประกอบด้วยมหัทธโนฤกษ์ ตรงกับขึ้น 5 ค่ำ เดือน 5 ปี เถาะ
ฤกษ์ วันศุกร์ที่ 8 เมษายน 2554 เวลา 11:30-12:10 น. ลัคนาสถิตย์ราศีกรกฎ ประกอบด้วยราชาฤกษ์ ตรงกับขึ้น 5 ค่ำ เดือน 5 ปี เถาะ
ฤกษ์ วันศุกร์ที่ 8 เมษายน 2554 เวลา 14:20-15:10 น. ลัคนาสถิตย์ราศีสิงห์ ประกอบด้วยมหัทธโนฤกษ์ ตรงกับขึ้น 5 ค่ำ เดือน 5 ปี เถาะ
ฤกษ์ วันอังคารที่ 12 เมษายน 2554 เวลา 07:10-07:50 น. ลัคนาสถิตย์ราศีเมษ ประกอบด้วยมหัทธโนฤกษ์ ตรงกับขึ้น 9 ค่ำ เดือน 5 ปี เถาะ
ฤกษ์ วันอังคารที่ 12 เมษายน 2554 เวลา 11:10-12:00 น. ลัคนาสถิตย์ราศีกรกฎ ประกอบด้วยราชาฤกษ์ ตรงกับขึ้น 9 ค่ำ เดือน 5 ปี เถาะ
ฤกษ์ วันอังคารที่ 12 เมษายน 2554 เวลา 14:00-15:00 น. ลัคนาสถิตย์ราศีสิงห์ ประกอบด้วยมหัทธโนฤกษ์ ตรงกับขึ้น 9 ค่ำ เดือน 5 ปี เถาะ
ฤกษ์ วันพุธ (กลางวัน)ที่ 13 เมษายน 2554 เวลา 07:00-14:55 น. ลัคนาสถิตย์ราศีสิงห์ ประกอบด้วยมหัทธโนฤกษ์ ตรงกับขึ้น 10 ค่ำ เดือน 5 ปี เถาะ
ฤกษ์ วันศุกร์ที่ 15 เมษายน 2554 เวลา 07:00-07:40 น. ลัคนาสถิตย์ราศีเมษ ประกอบด้วยมหัทธโนฤกษ์ ตรงกับขึ้น 12 ค่ำ เดือน 5 ปี เถาะ
ฤกษ์ วันศุกร์ที่ 15 เมษายน 2554 เวลา 08:30-09:10 น. ลัคนาสถิตย์ราศีพฤษภ ประกอบด้วยภูมิปาโลฤกษ์ ตรงกับขึ้น 12 ค่ำ เดือน 5 ปี เถาะ
ฤกษ์ วันศุกร์ที่ 15 เมษายน 2554 เวลา 11:00-11:50 น. ลัคนาสถิตย์ราศีกรกฎ ประกอบด้วยราชาฤกษ์ ตรงกับขึ้น 12 ค่ำ เดือน 5 ปี เถาะ
ฤกษ์ วันศุกร์ที่ 15 เมษายน 2554 เวลา 12:50-13:40 น. ลัคนาสถิตย์ราศีสิงห์ ประกอบด้วยทลิทโทฤกษ์ ตรงกับขึ้น 12 ค่ำ เดือน 5 ปี เถาะ
ฤกษ์ วันศุกร์ที่ 15 เมษายน 2554 เวลา 13:50-14:50 น. ลัคนาสถิตย์ราศีสิงห์ ประกอบด้วยมหัทธโนฤกษ์ ตรงกับขึ้น 12 ค่ำ เดือน 5 ปี เถาะ
ฤกษ์ วันศุกร์ที่ 15 เมษายน 2554 เวลา 16:10-16:50 น. ลัคนาสถิตย์ราศีกันย์ ประกอบด้วยภูมิปาโลฤกษ์ ตรงกับขึ้น 12 ค่ำ เดือน 5 ปี เถาะ
ฤกษ์ วันอังคารที่ 19 เมษายน 2554 เวลา 07:00-07:25 น. ลัคนาสถิตย์ราศีเมษ ประกอบด้วยมหัทธโนฤกษ์ ตรงกับแรม 1 ค่ำ เดือน 5 ปี เถาะ
ฤกษ์ วันอังคารที่ 19 เมษายน 2554 เวลา 10:45-11:35 น. ลัคนาสถิตย์ราศีกรกฎ ประกอบด้วยราชาฤกษ์ ตรงกับแรม 1 ค่ำ เดือน 5 ปี เถาะ
ฤกษ์ วันอังคารที่ 19 เมษายน 2554 เวลา 13:35-14:35 น. ลัคนาสถิตย์ราศีสิงห์ ประกอบด้วยมหัทธโนฤกษ์ ตรงกับแรม 1 ค่ำ เดือน 5 ปี เถาะ
ฤกษ์ วันพุธ (กลางวัน)ที่ 20 เมษายน 2554 เวลา 07:00-07:20 น. ลัคนาสถิตย์ราศีเมษ ประกอบด้วยมหัทธโนฤกษ์ ตรงกับแรม 2 ค่ำ เดือน 5 ปี เถาะ
ฤกษ์ วันพุธ (กลางวัน)ที่ 20 เมษายน 2554 เวลา 11:35-12:20 น. ลัคนาสถิตย์ราศีกรกฎ ประกอบด้วยสมโณฤกษ์ ตรงกับแรม 2 ค่ำ เดือน 5 ปี เถาะ
ฤกษ์ วันพุธ (กลางวัน)ที่ 20 เมษายน 2554 เวลา 13:30-14:30 น. ลัคนาสถิตย์ราศีสิงห์ ประกอบด้วยมหัทธโนฤกษ์ ตรงกับแรม 2 ค่ำ เดือน 5 ปี เถาะ
ฤกษ์ วันศุกร์ที่ 22 เมษายน 2554 เวลา 07:00-07:10 น. ลัคนาสถิตย์ราศีเมษ ประกอบด้วยมหัทธโนฤกษ์ ตรงกับแรม 4 ค่ำ เดือน 5 ปี เถาะ
ฤกษ์ วันศุกร์ที่ 22 เมษายน 2554 เวลา 10:40-11:20 น. ลัคนาสถิตย์ราศีกรกฎ ประกอบด้วยราชาฤกษ์ ตรงกับแรม 4 ค่ำ เดือน 5 ปี เถาะ
ฤกษ์ วันศุกร์ที่ 22 เมษายน 2554 เวลา 13:30-14:20 น. ลัคนาสถิตย์ราศีสิงห์ ประกอบด้วยมหัทธโนฤกษ์ ตรงกับแรม 4 ค่ำ เดือน 5 ปี เถาะ
ฤกษ์ วันจันทร์ที่ 25 เมษายน 2554 เวลา 07:00-07:00 น. ลัคนาสถิตย์ราศีเมษ ประกอบด้วยมหัทธโนฤกษ์ ตรงกับแรม 7 ค่ำ เดือน 5 ปี เถาะ
ฤกษ์ วันจันทร์ที่ 25 เมษายน 2554 เวลา 07:50-08:30 น. ลัคนาสถิตย์ราศีพฤษภ ประกอบด้วยภูมิปาโลฤกษ์ ตรงกับแรม 7 ค่ำ เดือน 5 ปี เถาะ
ฤกษ์ วันจันทร์ที่ 25 เมษายน 2554 เวลา 10:20-11:10 น. ลัคนาสถิตย์ราศีกรกฎ ประกอบด้วยราชาฤกษ์ ตรงกับแรม 7 ค่ำ เดือน 5 ปี เถาะ
ฤกษ์ วันจันทร์ที่ 25 เมษายน 2554 เวลา 12:10-13:00 น. ลัคนาสถิตย์ราศีสิงห์ ประกอบด้วยทลิทโทฤกษ์ ตรงกับแรม 7 ค่ำ เดือน 5 ปี เถาะ
ฤกษ์ วันจันทร์ที่ 25 เมษายน 2554 เวลา 13:10-14:10 น. ลัคนาสถิตย์ราศีสิงห์ ประกอบด้วยมหัทธโนฤกษ์ ตรงกับแรม 7 ค่ำ เดือน 5 ปี เถาะ
ฤกษ์ วันจันทร์ที่ 25 เมษายน 2554 เวลา 15:30-16:30 น. ลัคนาสถิตย์ราศีกันย์ ประกอบด้วยภูมิปาโลฤกษ์ ตรงกับแรม 7 ค่ำ เดือน 5 ปี เถาะ
ฤกษ์ วันพุธ (กลางวัน)ที่ 27 เมษายน 2554 เวลา 10:15-11:00 น. ลัคนาสถิตย์ราศีกรกฎ ประกอบด้วยราชาฤกษ์ ตรงกับแรม 9 ค่ำ เดือน 5 ปี เถาะ
ฤกษ์ วันพุธ (กลางวัน)ที่ 27 เมษายน 2554 เวลา 13:05-14:05 น. ลัคนาสถิตย์ราศีสิงห์ ประกอบด้วยมหัทธโนฤกษ์ ตรงกับแรม 9 ค่ำ เดือน 5 ปี เถาะ
ฤกษ์ วันศุกร์ที่ 29 เมษายน 2554 เวลา 10:10-10:50 น. ลัคนาสถิตย์ราศีกรกฎ ประกอบด้วยราชาฤกษ์ ตรงกับแรม 11 ค่ำ เดือน 5 ปี เถาะ
ฤกษ์ วันศุกร์ที่ 29 เมษายน 2554 เวลา 11:00-11:40 น. ลัคนาสถิตย์ราศีกรกฎ ประกอบด้วยสมโณฤกษ์ ตรงกับแรม 11 ค่ำ เดือน 5 ปี เถาะ
ฤกษ์ วันศุกร์ที่ 29 เมษายน 2554 เวลา 13:00-13:50 น. ลัคนาสถิตย์ราศีสิงห์ ประกอบด้วยมหัทธโนฤกษ์ ตรงกับแรม 11 ค่ำ เดือน 5 ปี เถาะ
ฤกษ์ วันเสาร์ที่ 30 เมษายน 2554 เวลา 07:40-08:10 น. ลัคนาสถิตย์ราศีพฤษภ ประกอบด้วยภูมิปาโลฤกษ์ ตรงกับแรม 12 ค่ำ เดือน 5 ปี เถาะ
ฤกษ์ วันเสาร์ที่ 30 เมษายน 2554 เวลา 11:00-11:40 น. ลัคนาสถิตย์ราศีกรกฎ ประกอบด้วยสมโณฤกษ์ ตรงกับแรม 12 ค่ำ เดือน 5 ปี เถาะ
ฤกษ์ วันเสาร์ที่ 30 เมษายน 2554 เวลา 11:50-12:40 น. ลัคนาสถิตย์ราศีสิงห์ ประกอบด้วยทลิทโทฤกษ์ ตรงกับแรม 12 ค่ำ เดือน 5 ปี เถาะ
ฤกษ์ วันเสาร์ที่ 30 เมษายน 2554 เวลา 12:50-13:50 น. ลัคนาสถิตย์ราศีสิงห์ ประกอบด้วยมหัทธโนฤกษ์ ตรงกับแรม 12 ค่ำ เดือน 5 ปี เถาะ
ฤกษ์ วันเสาร์ที่ 30 เมษายน 2554 เวลา 15:10-16:10 น. ลัคนาสถิตย์ราศีกันย์ ประกอบด้วยภูมิปาโลฤกษ์ ตรงกับแรม 12 ค่ำ เดือน 5 ปี เถาะ

เคล็ดเอาฤกษ์เอาชัยก่อนออกจากบ้าน

เคล็ดเอาฤกษ์เอาชัยก่อนออกจากบ้าน

วันอาทิตย์
ก่อนจะออกจากบ้านหรือจะเดินทางไปทำธุระ  ให้ล้างหน้าก่อนทุกครั้ง

วันจันทร์
ให้ทำทีเป็นนอนพักเพื่อเอาเคล็ดก่อนที่จะออกจากบ้าน

วันอังคาร
ให้กวาดถนนก่อนออกจากบ้าน  เชื่อว่าทำอะไรก็จะได้ผลดี

วันพุธ
ควรจะกินข้าวก่อนที่จะออกจากบ้าน  หรือก่อนออกไปทำธุระต่่าง ๆ

วันพฤหัสบดี
ให้นำเอาขี้เถ้าหรือเขม่าไฟแตะที่บริเวณหน้าผากเล็กน้อยก่อนที่จะเดินทางออกจากบ้าน

วันศุกร์
ทำเป็นก้าวออกจากบ้านก่อน 3 ก้าว  แล้วเดินกลับเข้าบ้าน  จากนั้นจึงค่อยเดินทางออกไปจากบ้านจริง ๆ

วันเสาร์
ให้แกล้งทำเป็นทะเลาะกับคนในบ้าน หรือทำเป็นอารมณ์หงุดหงิดก่อนจะออกเดินทาง

การหาฤกษ์งามยามดี เพื่อความเป็นศิริมงคลแก่ชีวิต

วันที่เป็นมงคลสำหรับประกอบพิธีต่าง ๆ

วันที่เป็นมงคลสำหรับประกอบพิธีต่าง ๆ
         
         วันประกอบพิธีกรรมต่าง ๆ ที่เป็นมงคลนั้นไม่ว่าจะเป็นการแต่งงาน  การขึ้นบ้านใหม่  การบวช  หรือการเปิดร้านค้า  ควรที่จะดูฤกษ์ที่เป็นวันมงคลประกอบด้วย

วันข้างขึ้น
ขึ้น 1 ค่ำ
           หากทำพิธีมงคลจะมีแต่เรื่องเดือดร้อนใจไม่เหมาะกับพิธีมงคล  จะมีแต่อุปสรรคและปัญหา

ขึ้น 3 ค่ำ
          ไม่เหมาะกับพิธีมงคล  จะมีเรื่องเจ็บไข้และต้องเสียเงินเสียทอง

ขึ้น 4 ค่ำ
          เหมาะกับพิธีมงคล มีความรื่นเริง

ขึ้น 5 ค่ำ
          ไม่ดี  ไม่่ร้าย  มีทั้งโชคดีโชคร้ายสลับกัน

ขึ้น 6 ค่ำ
          ไม่เหมาะกับพิธีมงคล  มีแต่ความเดือดร้อน

ขึ้น 7 ค่ำ
          ไม่ดี  ไม่ร้าย  มีอุปสรรคบ้าง  มีโชคดี  และลาภบ้างเพียงเล็กน้อย

ขึ้น 8 ค่ำ
          ไม่เหมาะกับพิธีมงคล  จะมีเรื่องทุกข์ใจที่คาดไม่ถึง

ขึ้น 9 ค่ำ
          ไม่เหมาะกับพิธีมงคล  จะถูกนินทาว่าร้ายจนทำให้เสียชื่อเสียง

ขึ้น 10 ค่ำ
          เหมาะกับพิธีมงคล  จะพบโชคลาภอันน่าพึงพอใจ

ขึ้น 11 ค่ำ
          ไม่เหมาะกับพิธีมงคล  จะมีเรื่องราวทำให้เดือดร้อนใจอยู่เสมอ

ขึ้น 12 ค่ำ
         ไม่เหมาะกับพิธีมงคล  ไม่ว่าจะหวังสิ่งใดก็ไม่สมหวังทั้งนั้น

ขึ้น 13 ค่ำ
         ไม่เหมาะกับพิธีมงคล  มีแต่เรื่องร้าย  และจะมีเคราะห์

ขึ้น 14 ค่ำ
         เหมาะกับพิธีมงคล  ไม่ว่าจะหวังอะไรไว้ก็จะได้ดังหวัง

ขึ้น 15 ค่ำ
         ไม่เหมาะกับพิธีมงคล  ชีวิตจะมีแต่ปัญหาและความขัดแย้ง

วันข้างแรม
แรม  1 ค่ำ
          ไม่เหมาะกับพิธีมงคล  ทำงานใด ๆ ก็จะไม่ประสบความสำเร็จมีแต่มีปัญหา

แรม  2 ค่ำ
          ไม่เหมาะกับพิธีมงคล  ไม่ว่าจะทำดีแค่ไหนก็จะไม่มีคนยอมรับ


แรม  3 ค่ำ
          ไม่เหมาะกับพิธีมงคล  ชีวิตมีแต่ความยากลำบากและเหน็ดเหนื่อย

แรม  4 ค่ำ
          ไม่เหมาะกับพิธีมงคล  ทำสิ่งใดมักจะไม่มีความเจริญได้แต่ย่ำอยู่กับที่

แรม  5 ค่ำ
          ไม่เหมาะกับพิธีมงคล  จะทะเลาะเบาะแว้งในหมู่พี่น้องและเพื่อนฝูง

แรม  6 ค่ำ
          เหมาะกับการทำพิธีมงคล  จะได้ในสิ่งที่หวังและประสบความสำเร็จ

แรม  7 ค่ำ
          ไม่เหมาะกับพิธีมงคล  จะเสียของรักและเสียเงินทอง

แรม  8 ค่ำ
          ไม่ดี  ไม่ร้าย  สุขภาพไม่ดี  มีโชคเล็กน้อย

แรม  9 ค่ำ
          ไม่เหมาะกับพิธีมงคล  จะพบกับศัตรูที่นำความเดือดร้อนมาให้

แรม  10 ค่ำ
          เหมาะกับพิธีมงคล  วันนี้เป็นวันดี  ที่จะนำทั้งชื่อเสียงเกียรติยศและเงินทองมาสู่ชีวิต

แรม  11 ค่ำ
          ไม่เหมาะกับพิธีมงคล  จะมีแต่เรื่องทะเลาะเบาะแว้ง  และพบกับอุปสรรคต่าง ๆ นานา

แรม  12 ค่ำ
          ไม่เหมาะกับพิธีมงคล  จะมีแต่ปัญหา

แรม  13 ค่ำ
          เหมาะกับพิธีมงคล  จะพบแต่ความสุขสมหวัง  ไม่ว่าจะทำการใดก็จะมีแต่ความรุ่งเรือง

แรม  14 ค่ำ
          ไม่เหมาะกับพิธีมงคล  คิดจะทำการสิ่งใดก็มีแต่ปัญหาและอุปสรรค

แรม  15 ค่ำ
          ไม่เหมาะกับพิธีมงคล  จะมีแต่เรื่องที่ทำให้เดือดร้อนใจ  จะมีปัญหาอยู่ตลอดเวลา

ทำบุญให้ถูกทางเพื่อเสริมสร้างบารมี

ทำบุญให้ถูกทางเพื่อเสริมสร้างบารมี

จะทำมาค้าขายให้รุ่งเรือง
          ควรแบ่งกราบไหว้พระสีวลีและอธิฐานขอพรให้ค้าขายได้กำไร  โดยถวายผลไม้  3 ชนิด  และดอกไม้ที่มีกลิ่นหอมควบคู่ไปด้วย

อยากให้ครอบครัวรักใคร่กัน
          อยากให้มีความเจริญรุ่งเรืองก้าวหน้า  ต้องทำบุญให้แก่ญาติพี่น้องที่ล่วงลับไปแล้ว  รวมทั้งถวายเครื่องสังเวยชุดใหญ่  กรวดน้ำอุทิศส่วนบุญตามไปด้วย  และควรหมั่นไปกราบไหว้พระอินทร์ที่มีรูปบูชาในที่ต่าง ๆ

การค้าใกล้ล้มละลาย
          ให้ไหว้พระพรหม  และเทพศาลหลักเมืองตามจังหวัด  รวมทั้งบูชารัชกาลที่ 5  ที่สำคัญต้องบูชาพระสังกัจจายน์  และถวายธูปหอม  เทียนหอม  ทองคำเปลว  พวงมาลัย  และผลไม้  7 ชนิด  อาจนำไปถวายที่วัดก็ได้  แล้วให้อัญเชิญรูปบูชาของพระสังกัจจายน์ มาประดิษฐานไว้ที่ซึ่งทำธุรกิจนั้นด้วย

หวังสิ่งใดมักไม่ได้สมดังหวัง
          ให้ซื้อโต๊ะหมู่บูชาไปถวายกับวัดใกล้ ๆ บ้านแล้วให้สวดพระคาถาชินบัญชรก่อนนอนทุกคืนที่ควรทำอย่างยิ่งคือให้ปล่อยหอยขมเดือนละ  100 ตัว  เดือนละ  1  ครั้งติดต่อกันไปให้ครบ  100  วัน

อยากประสบความสำเร็จในการเรียนต่อ
          ต้องไปกราบไหว้ขอพรจากพระพรหม  และอย่าลืมพวงมาลัย  ดอกไม้สด  และพวงมาลัยพวงใหญ่  4  พวง  เพื่อถวายพระพรหมให้ครบ  4  พักตร์  และอธิฐานขอพรจากพระพรหมทั้ง  4  พักตร์นั้นด้วย  รวมทั้งถวายตุ๊กตาช้างเป็นบริวาร

อยากประสบความสำเร็จด้านการงาน
          ให้นำเครื่องน้ำหอมต่าง ๆ ถวายพระภิกษุและพระพุทธรูปบูชา  รวมทั้งบริจาคเงินทองเพื่อร่วมสร้างระฆังวัดด้วย  เมื่อไปวัดให้ถวายดอกไม้หอม  ธูปหอม พวงมาลัย เทียน และเติมน้ำมันตะเกียง รวมทั้งบริจาคเงินให้วัดเพื่อช่วยให้ทำนุบำรุงพระศาสนาด้วย

อยากเลิกคิดฟุ้งซ่าน
          ให้ตักบาตรกับพระสงฆ์ต่อเนื่องกัน  7  วันแล้วเข้าวัดถวายเทียน  ดอกไม้หอม  พวงมาลัย  รวมทั้งติดทองคำเปลว

มึอุปสรรคในเรื่องงาน
          ให้ไหว้พระพรหมและเจ้าแม่กวนอิม  ทำบุญถวายผ้ากฐิน  บริจาคทรัพย์แก่โรงพยาบาลสงฆ์และอาสนะแก่พระภิกษุสงฆ์  โดยไม่จำกัดว่าจะเป็นเตียงหรือเก้าอี้  หรือจะเป็นที่นอนก็ได้  ให้ติดทองคำเปลว  9  แผ่นในทุกวันพระ  บริจาคเงินเพื่อเติมน้ำมันตะเกียง